โดย : admin | เมื่อ : 2013-10-11 11:45 | เข้าชม : 37964
การเลือกน้ำหอมควรตัดสินใจจากการทดสอบกลิ่นด้วยตนเอง ความรู้สึกของแต่ล่ะคนที่มีต่อน้ำหอมอาจไม่เหมือนกัน บทความที่ผมนำมานี้เป็นแค่คำแนะนำและเป็นอีกแนวทางหนึ่ง เพื่อช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนๆ ในการเลือกน้ำหอมสำหรับผู้ชาย/ผู้หญิง ได้ง่ายมากยิ่นขึ้น ต้องขอบอกหน่อยว่า Calvin Klein เป็นยี่ห้อที่ทำน้ำหอมที่ทำออกมาแล้วไม่ค่อยผิดหวัง ด้วยกลิ่นที่หอมลงตัวไม่ฉุนและไม่หวานจนเกินไป จนทำให้กลายเป็นน้ำยอดฮิตของกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก หรือแม้ตัวของผมเอง วันนี้ผมก็เลยอยากจะมารีวิวน้ำหอมของ Calvin Klein ที่ขายดีที่สุดของร้านผม นั่นก็คือ CK one และ CK be ครับ
ตัวแรกนะครับกับ CK one เริ่มวางจำหน่ายในปี 1994 ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหอม ตัวแรกๆ ที่ทำตลาด น้ำหอม "Unisex" หรือน้ำหอมที่ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทางบริษัท Calvin Klein พยายามหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่า Unisex โดยเปลี่ยนมาใช้คำว่า "Shared" แทน เพื่อไม่ให้เหมือนกับ ตัวน้ำหอม Gaultier 2 ของ บริษัท Paul Gaultier จนถึงปัจจุบันนี้ น้ำหอม Ck One ก็ยังคงมีลูกค้าเป้าหมายเป็นชายหญิงที่อยู่ในช่วงอายุ 18-24 ปี น้ำหอมตัวนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงโดยมียอดขายมากถึง 5ล้านเหรียญ ในช่วงเวลาที่ออกวางขายเพียง 10 วันแรกเท่านั้น (เครดิต : Women’s Wear Daily, 10/7/1994) และก็ยังคงเป็นน้ำหอมขายดีระดับโลกมาจนถึงทุกวันนี้
Ck One ให้กลิ่นออกเบาๆ สดชื่น สูดดมแล้วรู้สึกมีพลัง และยังคงมีความนิยมในหมู่วัยรุ่น มันมีส่วนผสมของกลิ่นชาเขียว (green tea) ทำให้รู้สึกแปลกใหม่ และยังมีกลิ่นที่คุ้นเคย คล้ายกับว่ากลิ่นกาแฟ มันเป็นกลิ่นที่ผสมกันจากวัตถุดิบหลายชนิด แต่ผสมกันได้ลงตัวมาก ตัวขวดน้ำหอมก็ออกแบบมาได้ดีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัยรุ่น
ส่วนตัวที่สอง CK be เป็นน้ำหอมที่กลิ่นออกแนว sport man นิดๆ กลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา เหมาะกับทุกๆ วันน เพิ่มเสน่ห์ความเป็นชายให้กับตัวคุณเองได้ทุกวันไม่มีเบื่อ ด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ของวนิลาและพันธุ์ไม้สมุนไพรต่างๆ อีกทั้งสามารถใช้ได้ทั้งผู้ชาย/ผู้หญิง เหมือนกับเจ้า CK one
โดยส่วนตัวผมนะครับชอบทั้งสองกลิ่น แต่ก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะฉีดหอมนั้นไปโอกาสไหนมากกว่า สำหรับ CK one ผมคิดว่าเป็นน้ำหอมที่หอมติดทนนาน และหอมจริงๆ ถึงแม้ว่าตอนแรกๆ มันจะฉุนๆ หน่อย เหมือนมีมะนาว มะกรูด สมุนไพร มากระแทกที่จมูก แต่พอนานๆ ไปกลิ่นหอมก็เริ่มกระจายตัว เห้ยๆ มันก็ไม่เหม็นอย่างที่คิด ส่วนใหญ่ผมจะฉีดช่วงกลางวัน เพราะอากาศร้อนแค่ไหนเราก็ยังมีกลิ่นที่หอมสดชื่นตลอดเวลา
สำหรับ CK be อันนี้ก็ถือว่าเป็นลูกรักอีกคน แต่ส่วนใหญ่ผมจะใช้บริการของเขาในตอนกลางคืนเสียมากกว่า เพราะว่าเวลาผมไป Hang out กับกลุ่มเพื่อนๆ มันไม่ค่อยได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่ อย่างต่ำก็ 4-5 ชั่วโมงเอง คือจะบอกว่าน้ำหอมตัวนี้ถ้าฉีดช่วงกลางวันมันจะไม่ค่อยได้กลิ่นสักเท่าไหร่ แต่คนอื่นยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นของเรานะ (ส่วนตัว) แต่เรื่องความหอมนาน หอมทน ผมยกให้ CK one นะ
ผมว่าน้ำหอมเกือบทุกตัวของ Calvin Klein เป็นน้ำที่กลิ่นจางๆ แต่หอม ส่วนใหญ่จะเน้นการสัมผัสใกล้ๆ เสียมากกว่้า แบบว่า " Touch My skin with your body " อะไรประมาณนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู้กับสภาพผิวของคนแต่ละคนด้วยครับ เพราะการขับเหงื่อ หรือรูขุมขนของเราไม่เท่ากัน สำหรับผมฉีดตัวไหนก็หอมนาน ติดผิว ไม่จางไปง่ายๆ
สำหรับบางคนที่มีกลิ่นตัวค่อนข้างแรง หรือเป็นคนที่เหงื่อออกง่ายๆ ก็ไม่ควรใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นอ่อน ( อันนี้ขอย้ำ) อย่างพวก CK one / Ck be เป็นต้น เพราะมันจะทำให้ท่านเสียความรู้สึกกับกลิ่นนี้ไปเลย เหมือนที่ผมกล่าวตั้งแต่ต้นว่าเราไม่ไปสัมผัสด้วยตัวเองก่อน แล้วค่อยตัวสินใจซื้อ แล้วผิดหวังของท่านก็จะลดน้อยลง
ขอบคุณครับ
|